บริการตรวจวินิจฉัยด้วยการเจาะชิ้นเนื้อ
รายละเอียด
การวินิจฉัยมะเร็งเต้านมขั้นตอนที่สำคัญคือการนำชิ้นเนื้อมาตรวจทางพยาธิวิทยา ในอดีตเมื่อตรวจพบความผิดปกติที่เต้านมแพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยด้วยการผ่าตัดเพื่อนำชิ้นเนื้อนั้นออกมาตรวจว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ หากผลออกมาว่าเป็นมะเร็งเต้านม จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดอีกครั้งเพื่อรักษามะเร็งเต้านม
ปัจจุบันมีเทคนิคการนำชิ้นเนื้อออกมาตรวจด้วยการใช้เข็มตัดชิ้นเนื้อร่วมกับการถ่ายภาพทางรังสีหรืออัลตราซาวน์ขณะทำการตัดชิ้นเนื้อโดยการฉีดยาชา มีแผลขนาดเล็กเจ็บตัวน้อย ไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล
ในกรณีที่คลำได้ก้อน หรือมีผลแมมโมแกรมและอัลตราซาวน์เป็น BIRADs4-5 หลังจากที่แพทย์ตรวจยืนยันแล้วจะทำการแนะนำให้เจาะตรวจชิ้นเนื้อด้วยเทคนิคที่เหมาะสม ได้แก่
1. เจาะด้วยเข็มขนาดเล็กดูดเซลล์มาตรวจ(FNA: Fine needle aspiration) วิธีนี้เหมาะสำหรับการเจาะตรวจต่อมน้ำเหลือง หรือเจาะตรวจถุงน้ำที่เต้านม
2. เจาะตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่(Core needle biopsy) วิธีนี้มีความแม่นยำสูง ประมาณ 99% แบ่งเป็น
2.1. Ultrasound Guide core Biopsyแพทย์จะทำการตัดชิ้นเนื้อออกมาเป็นแท่งเล็กควบคู่ไปกับการทำอัลตราซาวน์ เพื่อให้มั่นใจว่าได้เนื้อออกมาถูกตำแหน่งจริงๆ
2.2. Stereotactic Vacuum Core Biopsy ในกรณีที่เป็นหินปูนหรือก้อนที่มองไม่เห็นในอัลตราซาวน์ แต่เห็นในแมมโมแกรม แพทย์จะใช้เครื่องตัดชิ้นเนื้อพิเศษแบบเจาะดูดกลับอัตโนมัติ โดยใช้เครื่องกำหนดพิกัดติดตั้งควบคู่กับเครื่องแมมโมแกรม เพื่อให้การตั้งพิกัดมีความแม่นยำ แล้วเข็มจะทำการตัดชิ้นเนื้อและลำเลียงออกมาด้วยเครื่องดูดอัตโนมัติ
ในบางรายหลังจากเจาะตัดชิ้นเนื้อแล้ว แพทย์จะวาง Titanium marker ไว้เพื่อบอกตำแหน่งที่มีความผิดปกติ สำหรับการติดตามหรือการรักษาในอนาคต
ในบางกรณีที่ไม่สามารถเจาะชิ้นเนื้อได้เช่นในตำแหน่งที่อันตราย แพทย์อาจต้องใช้วิธีการผ่าตัดนำก้อนเนื้อออกมาพิสูจน์ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ หากผลชิ้นเนื้อออกมาว่าเป็นมะเร็งจำเป็นต้องมาทำการผ่าตัดแบบมะเร็งต่อไป
การวินิจฉัยมะเร็งเต้านม ไม่ควรล่าช้า เพราะเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนที่จะเริ่มการรักษามะเร็งเต้านม ที่โรงพยาบาลนมะรักษ์ สามารถทำการตรวจชิ้นเนื้อได้ภายในวันเดียวกันและทราบผลได้ภายใน 1-3 วัน
ค่าบริการ
o เจาะด้วยเข็มขนาดเล็กดูดเซลล์มาตรวจร่วมกับอัลตราซาวน์ (Ultrasound Guide FNA:Fine needle aspiration)
· ค่าบริการรวมค่าชิ้นเนื้อประมาณ 11,000-13,000 บาท ต่อจุด
o เจาะตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่ร่วมกับอัลตราซาวน์ (Ultrasound Guide core Biopsy)
· ค่าบริการรวมค่าชิ้นเนื้อประมาณ 25,000-29,000 บาท ต่อจุด
o เจาะตัดชิ้นเนื้อด้วยเข็มขนาดใหญ่ร่วมกับแมมโมแกรม (Stereotactic Vacuum Core Biopsy)
· ค่าบริการรวมค่าชิ้นเนื้อประมาณ 63,000-69,000 บาท ต่อจุด ค่าบริการดังกล่าวรวม Titanium marker แล้ว
ขั้นตอนการเข้ารับบริการ
1. กรณีเป็นผู้รับบริการที่มาตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลนมะรักษ์ สามารถเจาะตรวจชิ้นเนื้อได้เลยในวันเดียวกันหรือในวันที่ผู้รับบริการสะดวก หลังจากที่ศัลยแพทย์ได้ทำการตรวจและแนะนำแนวทางการดูแลรักษาแล้ว
2. สำหรับผู้ที่นำผลการตรวจมาจากภายนอก ให้นัดพบศัลยแพทย์ เพื่อทำการตรวจและดูผลฟิล์มยืนยันความจำเป็น ก่อนทำการนัดเจาะตรวจชิ้นเนื้อ
3. ก่อนทำการตรวจชิ้นเนื้อทางโรงพยาบาลเจาะทำการประเมินความเสี่ยงเรื่องเลือดออกผิดปกติ ด้วยการตอบแบบสอบถามคัดกรองความเสี่ยง การตรวจทางห้องปฏิบัติการดูค่าเม็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือดว่าผิดปกติหรือไม่
4. ข้อควรระวังสำหรับผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด วิตามินอี น้ำมันปลา(FISH oil) แนะนำให้หยุดรับประทานก่อนการเจาะตรวจชิ้นเนื้ออย่างน้อย 7 วัน
5. หลังจากเจาะตรวจชิ้นเนื้อแล้วทางโรงพยาบาลจะมีการโทรติดตามอาการหลังเจาะตรวจชิ้นเนื้อโดยพยาบาลในวันรุ่งขึ้น และนัดพบแพทย์เพื่อดูแผลและผลชิ้นเนื้อหลังจากเจาะตรวจชิ้นเนื้อประมาณ 3-5 วันหลังจากเจาะชิ้นเนื้อ
ระยะเวลา(Cycle time)
เวลาการตรวจทางห้องปฏิบัติการดูค่าเม็ดเลือดและการแข็งตัวของเลือด ประมาณ 1 ชั่วโมง
เจาะตรวจชิ้นเนื้อ ประมาณ 1 ชั่วโมง
รายงานผลชิ้นเนื้อจะได้รับ ประมาณ 3 วันทำการ
สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนมาโรงพยาบาล
- ประวัติการรักษาพยาบาลเดิม(หากมี)
- ผลการทำแมมโมแกรมและอัลตราซาวน์ ทั้งผลการรายงานและภาพที่บันทึกในรูปแบบซีดีภาพทางการแพทย์(ระบบPACs)
ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ต้องนัดพบก่อนทำการเจาะตรวจชิ้นเนื้อ
- รศ.พญ.เยาวนุช คงด่าน
- พญ.ปวีณา เลือดไทย
- พญ.เสริมศรี พงษ์รัตนกุล
- ผศ.นพ.ธงชัย ศุกรโยธิน
- นพ.มาวิน วงศ์สายสุวรรณ
- นพ.ฐิติกร ไกรสรกุล
- นพ.กัมปนาท นิ่มพูนศรี