10. จากอาจารย์แพทย์และคุณหนูสู่เจ๊คุมก่อสร้าง

    หลังจากธนาคารอนุมัติเงินกู้ เราก็พุ่งทะยานไปตามแผนงานของเรา ด้วยธรรมชาติของการก่อสร้างและงานโครงการมักจะล่าช้ากว่าแผนเสมอ ระดับโครงการอย่างเรา อาจจะช้าถึง 6 เดือน ทำอย่างไรให้ได้ตามที่เราต้องการ เป้าหมายมันต้องให้รู้สึกบีบคั้นหน่อยๆ เราตั้งเป้ากับผู้รับเหมาว่า ประมาณเดือนสิงหาหรือกันยา. ขอให้เสร็จ เพราะต้องมีขั้นตอนอีกหลายอย่างในการขออนุญาต มีแต่คนบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ใช้เวลาก่อสร้างแค่ปีเดียว จะเป็นไปได้อย่างไร เราบอกว่าเป็นไปได้สิ ต้องเป็นไปได้ แม้ในใจจะรู้ว่ายาก แต่ถ้าเค้าทำไม่ได้ตามแผนว่าสิงหากันยา เสร็จ ช้าไป3-6 เดือนก็ยังอยู่ในเป้าหมาย แต่ถ้าเราบอกว่าเสร็จสิ้นปี มันก็ต้องขยับไปอีกอยู่ดี ซึ่งในที่สุดก็เป็นตัวพิสูจน์ว่า เราก็ทำได้จริง อาคารพร้อมตรวจรับอ. 6 เดือนตุลาคม และพร้อมให้สบส. กระทรวงสาธารณสุชเข้าตรวจเดือนพฤศจิกายน 2561 เป็นไปตามแผนและตรงตามธรรมชาติการก่อสร้างที่เราคาดไว้

    เราให้ความมั่นใจกับทีมว่าเราทำได้ เดี๋ยวมาตีกรอบการทำงานกันใหม่ ทำคู่ขนานกันไป ทำโครงสร้างสถาปัตย์ไล่จากล่างขึ้นบน แล้วให้ตกแต่งภายในและติดตั้งเครื่องมือแพทย์ตามขึ้นไป เพราะเราต้องใช้งานชั้น 1, 2 ก่อน ทุกคนบอก ไม่ได้หลักการก่อสร้างต้องบนลงล่าง เราบอกไม่เป็นไร เรายอมเรื่องสกปรก แต่เดี๋ยวจัดทางสัญจรเอา เพราะเรามีบันได 2 ด้าน คือด้านหน้ากับด้านหลัง หากเราทำงานแบบคู่ขนาน ไปพร้อมๆกัน ด้วยการกั้นโซน และดูเรื่องเวลาการทำงานแต่ละส่วนเพื่อให้เสร็จพร้อมกันก็ไม่ต้องเสียเวลา เพราะโดยส่วนใหญ่การก่อสร้างต้องทำโครงสร้าง สถาปัตย์ให้เสร็จก่อน แล้วค่อยตกแต่งภายในเข้า จากนั้นจึงติดตั้งเครื่องมือแพทย์ ซึ่งหากทำเช่นนี้จะเสียเวลามา การทำงานแบบที่เราต้องการ การคุมงานเป็นเรื่องสำคัญ การคุมงานในที่นี้ไม่ได้ถึงผู้ควบคุมงานตามกฎหมาย แต่หมายถึงการคุมการประสานงานการกำกับในแต่ละส่วนแต่ละซัพพลายเออร์ในการเข้าออกงาน อันนี้เจ้าของต้องลงมาเอง ไล่เคาะไล่กำกับและตัดสินใจโดยไม่ล่าช้า 

    เมื่อกำหนดดังนั้นแล้ว หมอนุชหันมามองหน้ากับอิหนูเบน คงถึงเวลาที่เราต้องอำลาจากรามาธิบดีและอาร์เอฟเอสจริงๆ เพื่อลงมาทำหน้าที่นี้ เป็นเรื่องยากสำหรับหมอนุชในการจากอาชีพที่รักโดยเฉพาะเรื่องงานสอน หมอนุชเป็นคนรุ่นเก่าที่ไม่เคยเปลี่ยนที่ทำงานเลย ขณะที่อิหนูเบนเป็นคนรุ่นใหม่ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง

ปลายมีนาคม 2561 เมื่อตัดสินใจแล้ว ด้วยความอ่อนแอในใจเล็กๆของหมอนุช วันลาพักร้อนสะสมมี 30วัน จึงตัดสินใจลาพักร้อนยาว พร้อมส่งใบลาออก แล้วเดินทางไปฝรั่งเศสกับอิหนูเบนทันที เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียใจและลังเล หลังจากกลับจากฝรั่งเศส ก็เข้าทำงานที่ไซต์งาน โดยไม่ได้กลับเข้าไปรามาธิบดีอีกเลยเพราะกลัวทำใจไม่ได้ ก่อนที่วันลาออกจะมีผล ต่อสู้กับจิตใจตัวเองตลอดว่าจะออกหรือจะยกเลิกลาออกดี รบกวนจิตใจมาก นอนเสียน้ำตากับตัวเองไปหลายครั้ง จนกระทั่งถึงวันสุดท้ายคือวันที่ 31 พฤษภาคม 2561 ก็เป็นจุดที่ไม่สามารถหวนกลับไปเปลี่ยนการตัดสินใจได้อีกแล้ว ค่อยใจสงบขึ้นมาหน่อย ย้อนคิดแล้วในช่วงที่ลาพักร้อน ใบลาออกยังไม่มีผล แล้วยังอยู่ในรามาฯ มีคนมาเกลี้ยกล่อมอาจจะเปลี่ยนใจได้โดยง่าย ส่วนอิหนูเบนสบายๆ ไม่มีปัญหา

    ทุกวันเราอยู่ที่ไซต์งาน ไม่มีวันหยุด คุยกับผู้รับเหมาและซัพพลายเออร์เจ้าต่างๆ เดินตรวจทุกวัน วางแผนงาน วางระบบ แผนธุรกิจ แผนการตลาด เว็บไซต์ เฟสบุ๊ค ทุกอย่างทำกันเองหมด งานเยอะแต่มีความสุขมากขึ้น วันนี้วันที่หมอนุชไม่ได้เป็นอาจารย์เยาวนุชแล้ว แต่เป็นป้านุช บทบาทที่เปลี่ยนไป ส่วนอิหนูเบนก็โตขึ้นแกร่งขึ้นเก่งขึ้นเมื่อมาทำของตัวเอง หมอบั๊กจากผู้ชายลั้ลลาท่องเที่ยวก็ต้องทำงานมากขึ้น เพราะเรามีเป้าหมายเดียวกัน อยากจะสร้างโรงพยาบาลดีๆ ที่ดูแลเรื่องเต้านมให้เป็นที่จดจำ

Remark:: There's no guarantee for fixed result and outcome was uncertainty depend on individual